ตำนาน ปลัดขิก สุดยอดเครื่องรางเสริมดวงการค้า ในภาวะที่เศรษฐกิจฝืดเคืองจากการทำมาค้าขาย คนขายอยู่เต็มท้องตลาดมากกว่าคนซื้อ การแข่งขันทางการค้าค่อนข้างสูง เหล่าพ่อค้าแม่ค้าได้แต่หวังลึกๆในใจว่าอยากให้สินค้าของตัวเองขายดี นอกจากการหาสินค้าดีๆมาขายแล้วนั้น ก็ยังต้องพึ่งเรื่องเครื่องรางเสริมโชคลาภทางการค้าด้วยอีกทางหนึ่ง และถ้าพูดถึงเครื่องรางเสริมดวงเกี่ยวกับการค้า ก็คงจะต้องนึกถึงปลัดขิก กันอย่างแน่นอน แต่ปลัดขิกที่เรารู้จักกันนั้นก็มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจเช่นกัน ในบทความนี้นาคาพยากรณ์ขอพาไปเปิด ตำนาน ปลัดขิก เครื่องรางเสริมดวงการค้า ว่ามีตำนานและที่มาที่ไป อย่างไร และปลัดขิกของพระอาจารย์ท่านไหนเป็นที่เลื่องลือ มาเปิดญาณรับรู้ไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
ตำนาน ปลัดขิก หรือ ขุนเพ็ดจัดเป็นเครื่องรางของขลังที่ได้รับความนิยมอีกอย่างหนึ่งของคนไทย ปลัดขิกส่วนมากแกะสลักมาจากไม้ที่เชื่อกันว่าเป็นไม้มงคล หรือบางทีอาจทำจาก หิน ทองเหลือง ทองแดง กัลปังหา เขา งา เขี้ยว ของสัตว์ แกะสลักเป็นรูปร่างเหมือนอวัยวะเพศชายแต่ไม่มีหนังหุ้มปลายอวัยวะ มีขนาดต่าง ๆ กันและยาวพอเหมาะกับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง เมื่อทำการแกะสลักแล้วก่อนนำมาบูชาเป็นเครื่องรางของขลังจะต้องทำการปลุกเสกโดยผู้มีความรู้ด้านไสยศาสตร์ หรือพระภิกษุ ซึ่งหากทำการปลุกเสกด้วยพระภิกษุเชื่อกันว่าจะได้รับพระพุทธคุณมาด้วย ในปัจจุบันจึงพบว่าปลัดขิกส่วนใหญ่มาจากการปลุกเสกของพระภิกษุ คนไทยบางคนเชื่อกันว่าให้คุณแก่ผู้บูชา ส่วนชาวต่างชาติก็ทำเป็นของสะสม
ส่วนชื่อเรียก ปลัดขิก ไม่มีที่มาปรากฏชัดว่าเหตุใดจึงเรียกเช่นนั้น ส่วนคำว่า ปลัด หมายถึง ตำแหน่งรองจากตำแหน่งที่เหนือกว่า หรือสันนิษฐานว่าพ้องเสียงมาจากคำว่า ปราศวะ ในภาษาสันสกฤต แปลว่าเคียงข้าง เนื่องจากผู้บูชาปลัดขิกนิยมแขวนไว้ที่เอวหรือหากเป็นเด็กจะแขวนที่คอ เมื่อมีผู้พบเห็นแล้วเกิดหัวเราะเสียงดังคล้าย คิกๆคักๆ จึงอาจเพี้ยนมาเป็นปลัดขิก
ตำนาน ปลัดขิก
ตามความเชื่อที่เล่าสืบต่อกันมานั้น สันนิษฐานว่าอาจได้รับอิทธิพลมาจากชาวอินเดียในแถบตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 2000 ปีก่อน โดยอาจเกี่ยวข้องกับชาวฮินดูที่นับถือพระอิศวร และบูชาแท่งหินแกะสลักคล้ายอวัยวะเพศชาย เรียกว่า ศิวลึงค์ การเริ่มบูชาปลัดขิกนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากการบูชาพระอาทิตย์และพระจันทร์ ซึ่งได้มีการสร้างเสาหินที่ผสมผสานระหว่างรูปร่างของพระอาทิตย์และพระจันทร์เข้าด้วยกัน หากดูผิวเผินจะคล้ายกับอวัยวะเพศชาย จึงเรียกว่า ลึงค์ เมื่อมีความเชื่อเกี่ยวกับพระอิศวรหรือพระศิวะกับพระอุมา ศิวะลึงค์จึงได้สร้างขึ้นมาให้มีขนาดเล็กลงเพื่อความสะดวกในการพกพา
บางตำนาน กล่าวว่าเกิดจากบรรดาเทพและมนุษย์ร่วมกันสร้างเพื่อบูชาพระศิวะ แต่การจะสร้างพระศิวะเพื่อบูชานั้นอาจดูว่าเป็นเรื่องธรรมดามากเกินไป จึงได้สร้างศิวะลึงค์ขึ้นบูชาซึ่งอาจสื่อถึงความมีราคะของพระศิวะ ส่วนอีกตำนานหนึ่งนั้นกล่าวว่า วันหนึ่งพระศิวะร่วมเสพสังวาสกับพระอุมาในท้องพระโรง ทำให้บรรดาเหล่าเทพที่มาเข้าเฝ้าเห็นเข้า และแสดงความไม่นับถือต่อพระศิวะ ด้วยเหตุนี้พระศิวะจึงบันดาลโทสะและประกาศในท้องพระโรงนั้นว่า อวัยวะของพระองค์นี่แหละจักปกป้องคุ้มครองแก่ผู้เคารพบูชา หากเทพหรือมนุษย์ผู้ต้องการประสบความสำเร็จและความสุขในชีวิตจะต้องเคารพบูชาให้กราบไหว้บูชาอวัยวะของพระองค์
ในประเทศไทยไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเริ่มมีมาในสมัยใด และมีความแแตกต่างจากศิวลึงค์ของชาวฮินดู เนื่องจากปลัดขิกที่คนไทยนำมาบูชานั้นทำขึ้นจากผู้มีวิชาความรู้ด้านไสยศาสตร์และทำการปลุกเสกเพื่อให้เป็นเครื่องรางของขลัง โดยในสมัยโบราณคนไทยนิยมห้อยปลัดขิกไว้กับเอวหรือห้อยคอสำหรับเด็กผู้ชาย ซึ่งการทำเช่นนี้เพราะมีความเชื่อว่าหากมีปลัดขิกติดตัวจะช่วยป้องกันอันตรายต่างๆได้ หรือบางคนนำมาบูชาไว้กับสถานประกอบการค้าขายเพราะเชื่อว่าจะทำให้ค้าขายมีกำไรมีคนอุดหนุนกิจการมากขึ้น
ตำนาน ปลัดขิก
ปลัดขิกในปัจจุบันนอกจากทำขึ้นโดยผู้มีความรู้ด้านไสยศาสตร์แล้ว ยังพบว่าถูกสร้างโดยพระภิกษุและได้รับความนิยมมากอาจเพราะมีความเชื่อทางด้านพุทธคุณประกอบกัน หรือ บางครั้งถูกสร้างโดยผู้มีความศรัทธาในพระภิกษุนั้นแล้วทำการแกะสลักปลัดขิกจากนั้นจึงนำไปให้พระภิกษุที่ตนเองนับถือทำการปลุกเสก คนในแวดวงเครื่องรางของขลังน่าจะรู้กันดี กล่าวขานกันว่า หากจะนับสุดยอด ปลัดชิก ที่เป็นที่สุดและเลื่องชื่อลือชานั่นก็คือ ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอาจจะแทนได้ด้วย ปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี ใครมีไว้ครอบครองนั้นขึ้นชื่อลือชาเรื่อง คงกระพัน เมตตา โชคลาภ ทำมาค้าขายดีเยี่ยม มีแล้วเหลือกินเหลือใช้แบบไม่ต้องร้องขอแต่ประการใด
ปลัดขิก ก็ยังคงเป็นตำนานสุดยอดเครื่องรางของขลังที่ยังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย และไม่อาจทำลายความเชื่อของผู้คนที่มีความศรัทธาในสิ่งเหล่านี้ และมีหลายต่อหลายครั้งที่ศรัทธา นำมาซึ่ง ปาฎิหาริย์ ทำให้พวกเขาเชื่อกันว่า เครื่องรางของขลังเสริมดวงการค้า สามารถช่วยเกื้อหนุนและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพวกเขาได้ ส่วนใครอยากรู้ก็ต้องไปลองหามาบูชากันดู ไม่แน่ว่าชีวิตคุณก็อาจจะพบปาฎิหาริย์ได้ด้วยเช่นกัน
ติดตามเรื่องราวตำนานต่างๆที่จะทำให้คุณได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกันอีกครั้ง พร้อมข่าวสารเลขเด็ดและการทำนายฝัน ได้ในหน้าเว็บไซต์นาคาพยากรณ์ หรืออีกหนึ่งช่องทางคือแฟนเพจนาคาทีวี เพจเดียวครบ จบในที่เดียว
Lemonyouness : รายงาน